5 เคล็ดลับระบายความร้อนออกจากบ้าน

อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยมีสภาพอากาศแบบฤดูร้อนเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมีนาคมและเมษายน ที่อุณหภูมิจะสูงขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ในทุกๆปี เมื่อสภาพอากาศข้างนอกร้อนมากแล้ว การเข้าไปในบ้านหรืออาคารที่มีความร้อนอีก คงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ซึ่งความร้อนนั้นสามารถมาได้จากทุกที่ ถ้าหากคุณรวมรอยแตก รอยแยกเล็กๆ และสถานที่ต่างๆภายในบ้านที่อากาศสามารถผ่านเข้ามาได้ อาจจะเปรียบได้ว่า บ้านของคุณอาจจะมีรูขนาดเท่าลูกบาสเก็ตบอลอยู่ที่ผนังบ้าน

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันเราจะมีเครื่องปรับอากาศและเครื่องอำนวยความสะดวกสบายอื่นๆที่ช่วยทำให้อากาศภายในบ้านเย็นสบายขึ้นในหน้าร้อน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยพลังงานและค่าไฟฟ้าที่เสียไป วันนี้เราจึงนำเคล็ดลับดีๆที่จะช่วยทำให้บ้านเย็นลง ช่วยประหยัดพลังงาน และเงินในกระเป๋าของคุณมาฝากกันค่ะ

1.วัสดุกันความร้อน

วัสดุกันความร้อน เป็นส่วนประกอบที่ช่วยปกป้องบ้านจากความร้อนได้ดียิ่งขึ้น ทำให้บ้านเย็นขึ้น โดยความร้อนในบ้านส่วนใหญ่นั้นจะมาจากหลังคาและผนังบ้าน เพราะเป็นส่วนที่ได้รับแสงแดดจากดวงอาทิตย์โดยตรง ซึ่งถ้าหากเพิ่งเริ่มสร้างบ้านควรทำการวางระบบกันความร้อนให้ดี แต่หากเป็นที่อยู่อาศัยเดิม สามารถใช้วัสดุกันความร้อนอย่าง ฉนวนกันความร้อน ก็จะช่วยทำให้บ้านเย็นขึ้นเช่นกัน โดยใช้ฉนวนกันความร้อนบริเวณใต้หลังคาก่อนติดฝ้าเพดาน และบริเวณผนังด้านข้างของตัวบ้าน รวมไปถึงการติดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อนก็จะช่วยทำให้บ้านเย็นขึ้นได้ ทำหน้าที่สะท้อนแสงกลับออกไป ไม่เพิ่มอุณหภูมิในตัวบ้าน ทำให้บ้านเย็นสบายมากขึ้น

นอกจากการใช้วัสดุกันความร้อนสำหรับผนังบ้านแล้ว อีกวิธีที่จะให้ความเย็นสบายแก่บ้าน คือการเลือกก่อผนังด้วยอิฐมวลเบา ซึ่งสามารถกันความร้อนได้ดี หรือจะใช้สีทาบ้านที่มีสีอ่อน ช่วยสะท้อนความร้อนออกจากตัวบ้าน ซึ่งในปัจจุบันมีสีชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนโดยเฉพาะ

2.อุปกรณ์บังแดด

อุปกรณ์บังแดดมีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ม่าน ผ้าใบกันแดด หรือบานเกล็ด แต่โดยส่วนใหญ่ ม่าน จะเป็นตัวเลือกที่นิยมใช้กันมากที่สุด คนส่วนใหญ่อาจจะเข้าใจว่าม่านควรจะต้องเป็นสีเข้ม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วม่านผืนหนาสีเข้มจะเก็บความร้อนเมื่อโดนแสงแดด แต่หากติดม่านสองชั้นโดยเลือกใช้ม่านเนื้อบาง สีอ่อน และโปร่งแสงไว้ด้านนอก สำหรับใช้ในช่วงกลางวัน เพื่อให้ลมพัดผ่านได้อย่างสะดวก ซึ่งม่านสีอ่อนจะไม่ดูดความร้อนและช่วยกรองแสงได้มากกว่าม่านสีเข้ม หากคุณไม่อยากติดม่านสองชั้น อาจจะเลือกม่านกรองแสง ม่านแบบโซลาร์ ซันสกรีน หรือแบล็คเอาท์ ซึ่งช่วยกรองแสงได้มากถึง 80% โดยเมื่อแสงแดดส่องเข้ามาในบ้านน้อยลง อุณหภูมิในบ้านก็จะเย็นลงด้วยเช่นกัน

3.ฟิล์มกรองแสง

เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช่วยลดปริมาณแสง ความร้อนที่จะเข้ามาในบ้าน และอุณหภูมิภายในบ้านได้ 30-80% รวมไปถึงช่วยลดการทำงานหนักของเครื่องปรับอากาศได้เป็นอย่างดี มีลักษณะเดียวกันกับฟิล์มกรองแสงของรถยนต์ หรือเลือกใช้กระจกที่มีสีชา สีเขียว หรือสีฟ้าก็จะช่วยได้เช่นกัน ทำให้สามารถมองออกไปภายนอกบ้านได้สบายตามากขึ้นอีกด้วย

4.พัดลมระบายอากาศ

ตัวช่วยสำคัญในการช่วยทำให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น พัดลมระบายอากาศไม่ได้ใช้ได้แค่เฉพาะห้องน้ำ หรือห้องครัวเท่านั้น แต่สามารถใช้ได้กับมุมต่างๆภายในบ้านที่ไม่มีการไหลเวียนอากาศ ไม่มีหน้าต่างหรือทางให้ลมผ่านเข้าออก โดยพัดลมระบายอากาศจะช่วยหมุนเวียนอากาศจากภายนอกเข้ามา ไล่อากาศอบอ้าวภายในบ้านออกไป ไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งานตลอดเวลา แค่เปิดใช้งานบางช่วงก็สามารถทำให้ความร้อนที่สะสมภายในบ้านไหลออกไปได้แล้ว

5.ต้นไม้

ตัวช่วยจากธรรมชาติอย่างต้นไม้ เป็นตัวช่วยชั้นดีที่ช่วยทั้งกรองอากาศ เพื่มอากาศบริสุทธิ์ ผลิตออกซิเจน ระบายความร้อน และเป็นการเพิ่มความเย็นให้กับบ้าน เป็นวิธีที่ที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน อาจจะเลือกปลูกต้นไม้ใหญ่ภายนอกตัวบ้าน เพื่อช่วยปกป้องจากแสงแดดที่ส่องเข้ามาในตัวบ้าน แนะนำให้ปลูกต้นไม้ทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้ จะช่วยทำให้บ้านเย็นขึ้น แต่หากต้องการปลูกภายในบ้าน อาจจะนำมาตั้งในห้องนั่งเล่น โดยใช้พันธุ์ที่ช่วยปล่อยออกซิเจนออกมาทำให้อากาศบริสุทธิ์ และทำให้ผ่อนคลาย เช่น พลูด่าง ยางอินเดีย เฟิน ฯลฯ นอกจากนี้การมองไปทางไหนก็เห็นสีเขียว จะทำให้เราสบายใจและสบายตามากขึ้นด้วย

ทั้ง 5 ข้อที่กล่าวเป็นแนวทางพื้นฐานในการช่วยลดความร้อนภายในบ้าน ทำให้อากาศเย็นสบาย ลองเลือกข้อที่เหมาะสมกับบ้านของคุณ หรือนำไปใช้พร้อมกันทุกข้อ เชื่อว่าคุณจะได้บ้านที่อากาศถ่ายเทแม้ในอากาศที่ร้อน อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย สบายกระเป๋าอีกด้วยค่ะ

‍